วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ความเป็นไปตามเหตุปัจจัย : บังคับไม่ได้ ตอบสนองได้

เมื่ือหลายวันที่ผ่านมา มิตรสหายจากแดนไกลมาถึงถิ่นพำนัก ตั้งใจว่าจะไปเสวนาด้วยสักครั้งสองครั้ง เขาพำนักกันหลายวัน แต่เหตุและปัจจัยไม่เอื้อให้
ก่อนมิตรสหายมา บุตรชายเอามอเตอร์ไซด์ไปชนรถยนต์ มอเตอร์ไซด์พอขับขี่ได้ คนเจ็บเล็กน้อยที่เท้าเดินไม่สะดวกลำบากและต้องทนเพราะเป็นช่วงสอบปลายภาคด้วย ส่วนคดีความเราเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายถูกไม่ได้ให้เบอร์โทรและข้อมูลใดมีเพียงทะเบียนรถ ด้วยความช่วยเหลือของลูกน้องเก่าผู้ใจดีพึ่งได้ตลอดควานหาให้จนเจอว่าอยู่ที่ใด ตามไปเคลียร์ถึงบ้าน ใช้เวลาสองวันกว่าจะลงเอยได้ ระหว่างนั้นต้องคอยรับส่งบุตรเพื่อให้ไปสอบได้
เหตุปัจจัยยังมีต่อ ในระหว่างมิตรสหายมาในวันฝนตกคราวเคราะห์ ภรรยาลื่นหกล้มก้นกบกระแทกพื้นเดินไม่ได้อยู่เป็นวันสองวัน ตอนนี้พอสบายขึ้นบ้างเดินได้แต่ลุกนั่งลำบากต้องคอยประคอง
ผลคือต้องคอยดูแลทั้งสองคนด้วยความห่วงใย และไม่ได้เสวนากับมิตรสหายสักคน
เราบังคับเหตุปัจจัยไม่ได้ แต่ตอบสนองเหตุการณ์ได้
ได้เท่าที่ปัญญาจะพาไป

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บนทางที่ไม่อาจเดิน: ไม่ไหวแล้ว

เรื่องเกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ในองค์กร
เริ่มจากน้องที่รับผิดชอบด้านการองค์กรแห่งการรู้และนวัตกรรมได้ส่งข้อความทาง Line คล้ายๆ อย่างนี้ว่า
อ. พี่คะตอนนี้น้องได้ บท. (นักสร้างนวัตกรรม) มาอยู่ด้วยแล้วและมีหนุ่ม จ. จาก บำรุงรักษา มาอีกคน คนนี้คล้าย อจ.พน. สมัยหนุ่ม จ.บอกว่า BAR&AAR เป็นอะไรที่งี่เง่า และ จ. ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ผู้บริหารอ่านและให้ความเห็น จ. ไม่เข้าใจ ส่วนผู้บริหารที่เป็นประธานคณะทำงานจัดทำแผนแม่บทองค์กรนวัตกรรม เป็น ดร.บส. ดร.ทางวิศวไฟฟ้า ไม่เห็นว่าต้องมี Tacit Knowledge เพราะทุกอย่างอยู่ใน ทฤษฎีอยู่แล้ว Tacit Knowledge เสียอีกเชื่อไม่ได้ ฝ่ายที่ซ่อมสร้าง ก็ไม่ใช้ BAR&AAR ส่วน CoPs เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เรื่องเล่าแบบ Tacit Knowledge จึงไม่มี เขาทำแต่เรื่องนำเสนอหรือบรรยายกัน จะได้ใช้โฆษณากับลูกค้าได้ด้วย ดูท่าจะเกินกำลังของน้องจริงๆ ผู้บริหารสูงสุดที่รับผิดชอบก็ไม่ชอบสักเท่าไร และกระแทกว่าโบราณด้วย ส่วนน้อง ด.(วิศวกรไฟฟ้าระดับผู้บริหาร) ต้องการแบบต้นแบบที่สำเร็จบางทีึ่ เช่น บปก. แต่ท่าจะยาก ลำพังตัวน้องคนเดียวมองไม่เห็นทางซะแล้ว
ผมขอทบทวนก่อน และให้ความเห็นว่า แสงสว่างมีแน่ ทางอาจไม่ชัดเจนในยามมืดมิด แม้คนไร้ตายังเดินทางได้ ปัญญาจะนำพาไปในฝันอันมั่นคง

ทบทวนได้ดังนี้
สภาพหน่วยงาน ที่มีคนจำกัดและต้องขับเคลื่อนองค์กรที่มีขนาดใหญ่ เป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้นำหน่วย คือน้อง อ. และท้าทายยิ่งขึ้นไปอีกคือ นอกจากภาระงานที่จะต้องทำยังต้องบริหารคนในหน่วยงาน ที่เป็นวิศวกรทั้งหมดด้วย ความเห็นผมคือเครื่องมือที่ใช้คือการบริหารบนหลักการของการจัดการความรู้ พื้นฐานคือเชื่อมั่นในศักยภาพและความเป็นมนุษย์ ที่ต้องการความรัก เข้าใจและยอมรับ เชื่อมั่นสัมพันธภาพแห่งคนทีจะให้ความรักและเกื้อกูลบนทางแห่งสุนทรียสนทนาเพื่อการเติบโตไปอย่างมั่นคง เชื่อมั่นในเกลียวความรู้ การหมุนวนระหว่าง Tacit Knowledge & Explicit Knowledge อ้ันจะนำไปสู่นวัตกรรม
จากสิ่งที่ อ. ระบายมานี้เข้าใจว่าระหว่างระบายไปได้เห็นทางบางประการบ้างแล้วทั้งทางสู้และทางหนี สำหรับผมซึ่งเป็นผู้อยู่ห่างไกลและไม่เห็นทั้งหมดมีความเห็นบางประการที่อาจเป็นประโยชน์บ้าง ดังนี้
ประเด็นเรื่องคน
เชื่อมโยงคนทั้งหมดในหน่วยงานเข้าหากันให้ได้ ด้วยการจัดการสนทนา สุนทรียสนทนา เชื่อมคนทั้งหมดในหน่วยงาน การงานเป็นสะพานเชือมความรัก เอาหัวเรื่องที่กังวลใจไปสู่การแลกเปลี่ยน ฟังและฟัง เชื่อมสรรพสิ่งด้วยการฟัง เป็นความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมคนให้ได้ จึงจะมีพลัง ทำจุดประสงค์ร่วมให้ชัดเจน นำจุดประสงค์มารวมกัน พึงระวังความคิดของแต่ละคนไม่อาจนำมารวมกันได้ แต่นำด้วยจุดประสงค์ สร้างจุดประสงค์ร่วมจากภาระหน้าที่ ย้ำเตือนภาระเพื่อกระชับจุดประสงค์ อันนี้เป็นศิลปะที่ต้องทำแบบอ้อมๆ อย่าให้กระทบ Ego อัตตาของแต่ละคน
ประเด็นเรื่องเครื่องมือ
สามเครื่องมือหลักคือ BAR&AAR, Storytelling & CoPs แก่นของมันคือ สร้างและใช้ความรู้ เกลียวความรู้ที่หมุนไปยกระดับ ดังนั้น มันเป็นอุบายที่ทำให้คนสนใจและจัดการสิ่งอื่นๆ ต่อไป จุดหมายคือ นวัตกรรม อันเป็นผลผลิตสุดท้าย เมื่อมุ่งในจุดประสงค์ ความคิดก็ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน แม้คิดต่างกัน
เริ่มจาก Explicit Knowledge การบรรยาย ก็ได้ และต้องดูที่การนำไปใช้ ใช้แล้วก็มาบรรยายอีกยิ่งดี  ดูวงจร SECI ให้ดี มันเป็นการแลกเปลี่ยน กันระหว่าง EK และ TK อยู่ตลอดเวลา สำคัญที่เกลียวความรู้หมุนวนเร็วเท่าไรนวัตกรรมมาเร็วเท่านั้น
ประเด็นคณะทำงาน
เริ่มจากความเชื่อของเขา ทำจากสิ่งที่เขามี ฟังและฟัง สอบถามซักถามเพื่อให้แจ่มชัดในวัตถุประสงค์ กระชับวัตถุประสงค์ เราเอาวัตถุประสงค์รวมกันได้ แต่เอาความคิดมารวมกันได้ยาก สำหรับการกระทำต้องเป็นไปตามความสามารถและความตั้งใจ แผนเราเป็นเจ้าของร่วมกัน ทำร่วมกัน

อันที่เขียนมานี้เป็น ประสบการณ์ที่ผ่านมา ประกอบกับความคิด บริบทอาจไม่ตรงกันต้องปรับใช้นะครับ
ที่เขียนนี้ EK ไม่อาจบรรยาย TK ได้ครอบคลุม สนทนากันสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ หวังว่าคงมีแสงสว่างบ้าง
ด้วยจิตนอบน้อม